สะสมของที่ชอบอาจจะนำมาซึ่งเงินหรือรายได้ ในเวลาว่างนั้นทุกคนย่อมมีงานอดิเรก แต่จะดีกว่าไหม ถ้างานที่คุณชอบทำนั้น กลายเป็นการลงทุน ที่สามารถนำมา ซึ่งรายได้

จริงเสมอที่เวลานั้น มีความสำคัญและมีค่า ก็เช่นเดียวกันเมื่อสะสมและเก็งกำไร

ในความเป็นจริงแล้ว ใครก็ตามที่หลงรักและคลั่งไคล้ในของเล็ก ๆ อย่าง นาฬิกา ก็ต้องชื่นชมจริง ๆ ว่าคุณกำลังมาถูกทาง เนื่องจากนาฬิกา ก็เป็นของสะสมยอดนิยมมากมายในกลุ่มนักลงทุนเหมือนกัน เพราะว่าถ้าเลือกถูกรุ่นถูกแบรนด์ก็สามารถได้รับผลตอบแทนแบบมหาศาลได้ในเวลาสั้น ๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ทั่วโลกกำลังมีโรคระบาดติดต่อผ่านระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากสำหรับทุกคน แต่ความอยากได้นาฬิกาหรูมากขึ้นอย่างสม่ำเสมอแบบสวนกระแสสวนทางเลยทีเดียว เพราะเมื่อเวลาที่แบรนด์นาฬิกาชั้นหนึ่งไม่ได้ผลิตมากขึ้นเท่าความต้องการของผู้คน สิ่งนี้ก็ยิ่งทำให้นาฬิกาแบรนด์นั้นกลายเป็นของสะสมยิ่งหาได้ยากขึ้น

ในเวลาเดียวกัน นาฬิกาหรู ๆ หลายแบรนด์ก็ตกลงใจเปลี่ยนแปลงราคาขึ้น ด้วยเหตุว่าปัญหาซัพพลายเออร์แล้วก็พนักงานที่หายากในตอนที่กำลังมีโรคระบาด (เพราะถ้าหากผู้ใดป่วยด้วยโรคนี้ก็จะต้องหยุดงานกักตัว อีกทั้งผู้ใกล้ชิดเสี่ยงสูงก็ต้องพักงานเช่นกัน)

ทำให้พนักงานขาดแคลน ก่อนที่จะตามมาด้วยเหตุการณ์เงินเฟ้อซ้ำอีก แม้กระนั้นในทางตรงกันข้าม ปริมาณนักสะสมคนใหม่กลับทยอยเข้ามาในตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆตามกระแสการลงทุนที่เปลี่ยนไป ส่งผลต่อมูลค่าของนาฬิกาที่นักสะสมครอบครองปรับขยับตามขึ้นด้วยในช่วงที่มีโรคระบาดก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว แบรนด์นาฬิกาหรู ๆ ยอดฮิตที่มีชื่อเสียงกันในกลุ่มนักสะสมนั้น มีอยู่หลายแบรนด์ โดยจะกล่าวถึง 4 แบรนด์ดังที่ติดอันดับยอดนิยม 

• Rolex จะมีจำนวนการจำหน่ายสูงที่สุดในปี 2563 โดยจากสถิติคือสามารถขายออกได้ถึง 8 แสนกว่าเรือนเลยทีเดียว 
• อันดับที่สองที่มียอดจำหน่ายปัง ๆ ก็คงจะหนีไปไหนไม่ได้อย่าง Patek Philippe ที่ในสถิติสามารถขายออกไปได้กว่า 5 หมื่นกว่า เรือน 
• ต่อมาอันดับที่ 3 อย่างแบรนด์ Audemars Piguet ที่ขายออกไปได้ที่ 4 หมื่นเรือน 
• แล้วก็สุดท้ายอย่าง Richard Mille ที่มียอดจำหน่าย 4 พันกว่าเรือน 

ทำให้ดีความอยากได้ความต้องการของนาฬิกาหรูยังคงมีมากแบบแรงแทรงจำนวนนาฬิกาที่มีอยู่ในตลาดไปอีก

ข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษาสุดยอดอย่าง McKinsey พูดว่า ในปี 2568 คาดว่ายอดขายสินค้านาฬิกามือสอง จะมีจำนวนสูงขึ้นไปไกลมาก ๆ ถึง 1 ล้านล้านบาทหรือถึงกึ่งหนึ่งของตลาดขายปลีกนาฬิกา โดยอาจจะสูงได้ถึง 6.5 แสนล้านบาทในปี 2562

สนับสนุนเนื้อหาโดย   ole777