ในการทำงานของชนชั้นแรงงานหลายได้ถือว่ามีความไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนสิ่งที่นำมาช่วยพยุงหรือเพิ่มรายได้ในแต่ละเดือนนั่นก็คือโอทีหรือการทำงานล่วงเวลาเพื่อให้ได้เงินมากยิ่งขึ้น อย่างที่รู้กันว่าในปัจจุบันมีค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นรายได้ 300 บาทต่อวันคงไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนลืมแม้จะเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นการที่บางคนมีบุตรหลานหรือว่าต้องดูแลบุพการีนั่น
จึงทำให้ใช้จ่ายมากยิ่งขึ้นการที่มีรายได้เสริมจากช่องทางต่างๆจึงทำให้เขาพอที่จะดูแลครอบครัวได้หรือมีเงินเก็บสามารถนำไปลงทุนเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองแต่ในปัจจุบันมีการออกมาตรการของโรงงานหลายคนมีการตัดโอทีนั้นเป็นพบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจที่ถดถอยลงอย่างต่อเนื่องและเพิ่มทุนมีการคาดคะเนว่าประเทศไทย
จะเข้าสู่วิกฤตเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2020 จนไปถึงปี 2025 จะมีการถดถอยอย่างต่อเนื่องค่อยๆถดถอยลงมีการคาดการณ์ว่าอาจจะถึงขั้นปี 40 หรือเหตุการณ์ฟองสบู่แตกที่เกิดขึ้นมาแล้วทำให้ประเทศไทยเข้าสู่สภาวะเดือดร้อนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ต้องออกมาช่วยกันให้ผ่านวิกฤติตรงนั้นมาได้แต่ในปัจจุบันการแบ่งช่วงการจำกัดงบของผู้ประกอบการต่างๆเริ่มต้นที่คันแรกเป็นการลด OT ในส่วนที่ไม่จำเป็นเพราะในส่วนนี้สามารถลดได้เลยโดยไม่ต้องแจ้งใครใดๆทั้งสิ้นเลยไม่ต้องทำเรื่องให้วุ่นวายเป็นการปฏิบัติขั้นตอนแรกที่เป็นพื้นฐานของหลายๆบริษัทอยู่แล้ว
หากขั้นตอนนี้ทำแล้วไม่ได้ผลหรือว่ายังมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ครอบคลุมเท่ากับรายรับที่ได้มาหรือเรียกได้ว่ารายรับน้อยกว่ารายจ่ายจะไปถึงขั้นมาตรการต่อไปนี้ขยายระยะเวลาในการหยุดชดเชยเช่นปกติแล้วเราจะหยุดปีใหม่ 4 วันต่อปีแต่ในปีนี้อาจจะขยายเวลาไป 7 วันถึง 10 วันนั้นทำให้ผู้ประกอบการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนตรงนี้ลดค่าใช้จ่ายลงเพราะหากขยายระยะเวลาในการหยุดจะทำให้ลดเงินที่ต้องจ่ายในเดือนนั้นๆลงนี่คือสิ่งที่ผู้ประกอบการจะทำหลังจากลดโอทีลงแล้วไม่ได้ผลหรือว่ามีรายจ่ายไม่พอกับรายได้ที่ได้มาสิ่งนี้ก็จะเป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันจนไปถึงขั้นตอนสุดท้ายหากทั้งหมดที่ทำมาแล้ว
ยังไม่สามารถพยุงบริษัทได้คงจะต้องเป็นการลดพนักงานลงนั่นก็คือบริษัทจะคัดเลือกพนักงานที่มีความสำคัญกับบริษัทและอดพนักงานที่มีความสำคัญน้อยที่สุดออกบางครั้งอาจจะเห็นข่าวที่ออกมาบอกว่ามีการปกป้องนักงานมากกว่าหลักร้อยคนออกหรือว่ามีการนี้ปิดกิจการไปโดยที่ไม่บอกใครก็มีให้เห็น
เพราะจากการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้จึงทำให้นักลงทุนไม่มีการสูบฉีดเงินเข้ามาในระบบและบางบริษัทก็เกิดการขาดสภาพคล่องของทางบริษัทจึงต้องหาวิธีการต่างๆเพื่อพยุงบริษัทไว้และรักษาให้ไว้ได้มากที่สุดแต่หากไม่สามารถทำได้ก็คงต้องปิดบริษัทเพื่อเคลียร์ค่าใช้จ่ายทุกอย่างและจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับพนักงาน ตามสิทธิ์ที่ควรจะได้นี่คือสิ่งที่บริษัทต่างๆจะใช้ในการรักษาบริษัทของตัวเอง
สนับสนุนโดย aecasino