หลังจากวิกฤติ ภาวะโควิด19 ได้เข้ามาป่วนตลาดและพฤติกรรมคนซื้อและคนขายบาท ด้านผู้เชี่ยวชาญอสังหาริมทรัพย์ ได้ออกมาชีแจ้งว่า ปัจจัยพวกทำเลดีติดรถไฟฟ้า อาจจะไม่ใช่ปัจจัยต้นๆ ในการตัดสินใจซื้อหรือราคาขายอีกต่อไปในอนาคต เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจาก Telepresence จะทำให้ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องไปเจอตัวพบกันอีกต่อไป
เช่นการหาหมอ อีกหน่อยจะพบผ่าน Telepresence ได้ และเมื่อคนไม่จำเป็นต้องเดินทางไปพบกัน คนทำงานฟรีแลนซ์จะเยอะขึ้น และสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ดังนั้นความจำเป็นในการเลือกที่พักบนเส้นทางรถไฟฟ้าในราคาที่สูงกว่าทำเลอื่น อาจจะไม่จำเป็นอีกต่อไป ซึ่งจะทำให้ราคาที่พักในจุดที่ติดรถไฟฟ้า จึงไม่ควรสูงกว่าที่อื่นๆ อีก
ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ยังคงมองอีกว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้นั้น จะเป็นปีของการระบายสินค้าคงค้าง ซึ่งการแพร่ระบาดของโควิด19 นอกจากจะส่งผลให้ราคาและจำนวนของอสังหาริมทรัพย์นั้นมีราคาลดลงแล้ว ยังจะสร้างจุดเปลี่ยนของทั้งพฤติกรรมการขายของผู้ประกอบการ และพฤติกรรมของผู้บริโภค และยังคงรวมไปถึงอุปสงค์และอุปทานของตลาดอีกด้วย
เพราะจากผลกระทบครั้งนี้ ผนวกกับสภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้ผู้บริโภคหันไปมองตัวเลือกที่ตรงกับความต้องการของตัวเองมากขึ้น ซึ่งจะเป็นงานหนักของพวกดีเวลลอปเปอร์ โดยเฉพาะรายเล็กๆ และเมื่อภาคธุรกิจขาดสภาพคล่อง จะเริ่มเห็นแนวโน้มการปิดตัวลงของดีเวลลอปเปอร์รายเล็ก รวมไปถึงการเทคโอเวอร์ของผู้ประกอบการรายใหญ่ด้วย
ซึ่งนอกจากนี้แล้วนั้นในส่วนของผู้บริโภค จากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาและชะลอตัวนั้น จะทำให้เม็ดเงินในกระเป๋าของผู้บริโภคลดลง ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ชะลอการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ และจะกระทบต่อตลาดในจุดตรงนี้มากขึ้นไปอีกด้วย แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม หากเมื่อใดที่ทางรัฐบาลไทยสามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อได้และจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงจนอยู่ในระดับที่พอใจแล้วนั้น
ก็จะน่าทำให้สถานการณ์ของธุรกิจนี้กลับมาดีขึ้นได้ และทางผู้ประกอบการเองคงต้องใช้จังหวะนั้นเป็นการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดเพื่อกระตุ้นตลาดและธุรกิจไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาดเพื่อกระตุ้นธุรกิจและเพิ่มยอดขายซึ่งเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยตรงจุดนี้ได้เป็นอย่างมาก เพราะแม้ว่าโควิด จะทำให้ภาคธุรกิจต่างๆ ชะลอตัวลง
แต่ความสนใจของผู้บริโภคในการซื้อขาย เช่าอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมยังไม่ลดลงและส่วนใหญ่เริ่มให้ความสำคัญกับการใช้สื่อออนไลน์กันมากขึ้นในการค้นหาบ้านมากขึ้นและจะเป็น New Normal หรือสภาวะปรกติในรูปแบบใหม่ที่เราจะห็นต่อไปในอนาคต
สนับสนุนเรื่องราวโดย bk8 thai