สถานการณ์ทางการเมืองถ้าหากประชาชนลองสังเกตดูให้ดีๆฝั่งพรรคพลังประชารัฐได้เริ่มเสนอว่าจะมีการตั้งกรรมาธิการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นบรรยากาศในสภาเป็นบรรยากาศของวงแตกเพราะเรื่องนี้มันไม่ได้มีการพูดคุยกันในสภาวิบรัฐบาลวิบฝ่ายค้านวิบสมาชิกไม่มีการพูดเรื่องในสภา

นอกจากนี้คุณชวนหลีกภัยในวันพฤหัสก็พยายามจะให้มีการลงมติให้ได้ในเวลาสองทุ่มว่าตกลงสภาจะรับญัตติแแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่คุณชวนหลีกภัยย้ำอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องรีบลงมติรีบลงมติไม่อย่างนั้นไม่ทันสมัยประชุมแต่ในที่สุดคุณไพบูลย์เสนอแบบนี้ว่าขอตั้งกรรมาธิการศึกษา

ซึ่งมันก็เท่ากับว่าไม่ต้องมีการลงมติว่าจะรับหรือไม่รับรัฐธรรมนูญคุณไพบูลย์ได้เป็นตัวละครทางการเมืองที่พยายามย้ำมาหลายครั้งว่าคุณไพบูลย์ในเวลานี้ได้เป็นคนของนายประวิตรที่เป็นคนเสนอเรื่องนี้แล้ววุฒิสมาชิกทั้งหมดที่เป็นคนของนายประยุทธ์นั้นกลไกในการรวบรวมวุฒิสมาชิกกลไกในการปั่นประเด็นตั้งแต่วันพุธหรือพฤหัสนั้นกลไกในการปั่นประเด็นว่าวุฒิสมาชิกไม่เข้าใจรัฐธรรมนูญวุฒิสมาชิกไม่รู้เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญมาก่อนว่าทำไมต้องตั้ง สสร. ทำไมต้องเลิกอำนาจวุฒิสมาชิกทำไมต้องเปลี่ยนระบบเลือกตั้ง

โดยวุฒิสมาชิกที่เป็นคนของนายประยุทธ์เพราะฉะนั้นในสิ่งที่เราเห็นในวันพุธหรือพฤหัสที่ผ่านมาในที่สุดนำมาสู่การเตะถ่วงการแก้รัฐธรรมนูญนั้นคือการผนึงกำลังอีกครั้งหนึ่งของนายประยุทธ์และนายประวิตรการบูรณาการอีกครั้งหนึ่งของความเป็นจริงทางการเมืองที่ประชาชนอาจจะรังเกียจแต่มันคือความเป็นจริงที่ต้องยอมรับว่ามีอยู่จริงในประเทศไทย

ซึ่งมันก็คือว่าการเมืองสองขานายประยุทธ์ตั้งวุฒิสมาชิก 250คนเลือกคนที่นายประยุทธ์พอใจมาเป็นวุฒิสมาชิกเลือกนายประยุทธ์มาเป็นนายกมีพรรค สว. อยู่ในมือ250คน ขณะที่นายประยุทธ์นายประวิตรเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อพลังประชารัฐตั้งแต่เริ่มตั้งพรรคแล้วตอนนี้กลับมาคุมพรรคเองเข้ามาคุมพรรคเองตอนนี้ทั้งสองคนนี้ได้รวมมือกัน

โดยก่อนหน้านี้อาจจะมีการงอแงไม่พอใจอย่างนั้นอย่างนี้กันเพราะว่านายประวิตรนั้นไม่ได้อะไรเลยเป็นรองนายกที่ไม่มีตำแหน่งอะไรเลย

เมื่อในเวลานี้บรรยากาศของมวลชนมันมาทุบประตูเผด็จการอยู่มันมาไล่ตีกำแพงเผด็จการอยู่สองคนนี้ก็ร่วมมือกันเพราะวันนี้บรรยากาศในสภามันถึงวุ้นเพราะภูมิใจไทยประชาธิปัตเขาอาจจะอยู่ในรัฐบาลแต่ไม่ใช่ของนายประยุทธ์เขาไม่ใช่คนของนายประวิตรเขาต้องทำตามที่เขาเชื่อเขาต้องการให้มีการตั้งตั้ง สสร. 

โดยมันก็ได้มีบรรยากาศแบบนี้ก็คือก่อนที่จะมีการลงมติคนของนายประวิตรก็โทรไปหาภูมิใจไทยโทรไปหาประชาธิปัตวุ้นวายกันไปหมดพยายามเจรจาพยามหว่านล้อมขอให้ทั้งภูมิใจไทยและประชาธิปัตมาลงมติแบบที่พลังประชารัฐได้เสนอ

สนับสนุนเรื่องราวโดย  dewabet