เศรษฐกิจไทย “เสี่ยงสูง”

เศรษฐกิจไทย “เสี่ยงสูง” “รัฐ-เอกชน” เรียงแถวหั่นเป้า GDP

เนื่องจากทุกสำนักได้ทำการฟันธงกันหมดแล้ว ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2562 นี้จะทำการเติบโตได้ไม่ถึง 3% ต่อปี ซึ่งเห็นได้ชัดว่าต่ำสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมานี้เลยโดย “ทศพร ศิริสัมพันธ์” เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจรวมทั้งสังคมแห่งชาติ (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ) พูดว่า ได้ปรับลดประมาณการอัตราขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ (GDP) ปีนี้ลง

เหลือโตที่ 2.6% ต่อปี จากก่อนหน้าที่ผ่านมาคาดที่ 2.7-3.2% ภายหลังไตรมาส 3 ขยายตัวได้เพียงแค่ 2.4% รวม 9 เดือนขยายตัวเฉลี่ย 2.5% ต่อปีซึ่งเป็นผลจากการส่งออกชะลอตัวต่อเนื่อง โดยไตรมาส 3 หดตัว -4.8% (หักทองคำ) ส่งผลทำให้เกิดการผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวตามไปด้วยที่ -1.5%

“สาเหตุที่ดึงเศรษฐกิจปีนี้มี 4-5 ตัว อาทิเช่น เศรษฐกิจโลกที่ชะลอ การส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าขายระหว่างจีนกับสหรัฐแล้วก็เบร็กซิตที่ยังไม่แน่นอน ค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่าอยู่ แล้วก็มีเรื่องการลงทุนภาคเอกชนที่ต่ำลงเรื่อยๆตลอดปีนี้น่าจะโตที่ 2.8% มาจากการส่งออกที่ทำให้เกิดผลกระทบ แต่ว่าปีหน้าพวกเราก็คาดว่าการลงทุนจะดียิ่งขึ้น นอกจากนั้น ยังมีการลงทุนภาครัฐที่ชะลอตัวตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากว่าเป็นช่วงที่มีการเลือกตั้ง”

โดย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไตรมาส 4 จะผงกหัวขึ้นต่อเนื่องไปถึงปี 2563 ซึ่งคาดว่าจะโตได้ในช่วง 2.7-3.7% ค่ากลางที่ 3.2% ต่อปี ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากอุปสงค์ในประเทศ การค้าระหว่างประเทศที่คงจะดูดีขึ้น ผลจากมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ปฏิบัติงานต่อเนื่อง รวมทั้งการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดียิ่งขึ้น

“อย่างไรก็แล้วแต่ ทั้งหมดนี้ยังเชื่อใจไม่ได้ ยังจำเป็นต้องติดตามเหตุการณ์เศรษฐกิจโลก รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงด้านค่าเงิน และสาเหตุอื่นๆดังเช่น โลกร้อน ที่อาจจะเป็นผลให้เกิดภัยแล้ง ก่อให้เกิดผลเสียต่อผลผลิตภาคการเกษตร”

ฟาก “นริศ สถาผลเดชา” ผู้บริหาร TMB Analytics เผยออกมาว่า TMB ได้ปรับลดการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือ 2.5% จากเดิมมองดู 2.7% เนื่องจากว่าไตรมาส 3 ชะลอเกินกว่าคาด

ทำให้แรงส่งต่อไปยังในช่วงที่เหลือมีความจำกัด หากแม้ว่ามีความเชื่อมั่นและก็บรรยากาศของการลงทุนมีลัษณะทิศทางปรับดีขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดย TMB คาดว่าเศรษฐกิจไตรมาส 4 จะโตได้ 3% จากการส่งออกที่หดตัวต่ำลง และก็การลงทุนเอกชนที่จะเริ่มกลับมา ส่วนในการบริโภคคงจะชะลอ เพราะว่ามีการเร่งตัวในตอนต้นปีจากการกู้ยืมซื้อรถยนต์แล้วก็ที่พักอาศัย นำมาซึ่งการทำให้ภาระหน้าที่ผ่อนชำระเพิ่มสูงมากขึ้น ขณะเดียวกัน ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด

 

ได้รับการสนับสนุนจาก  next88